ทำเอาสาว "กานต์ วิภากร" ถึงกลับปรี๊ดแตก เมื่ออดีตสามี "เสก โลโซ" ร่อนจดหมายไปยังบ้านพ่อแม่เธอเพื่อขอให้ลูกสาวทั้งมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย งานนี้สาวกานต์ออกมาเผยให้สื่อมวลชนฟังว่าที่ต้องปรี๊ดและไม่ยอมนั้น เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเสกไม่เคยทำตามข้อตกลงได้เลย อีกทั้งในบ้านยังเต็มไปด้วยบุคคลอื่นทั้งชายและหญิง ทำให้เธอไม่มั่นใจความปลอดภัยของลูกตัวเอง

"ที่เป็นข่าวอีกแล้วตามที่พี่โพสต์ค่ะ พี่เสกเขาร่างจดหมายมาที่บ้านพ่อแม่พี่ จะเอาน้องกวางกับลอนดอนไปอยู่ด้วย ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่พี่คงไม่ยอมค่ะ จดหมายเขาทนายร่างมา แต่พี่ตอบกลับด้วยตัวเอง"

"ดูจากพฤติกรรมและที่เขาโพสต์มันไม่เหมาะกับการที่จะเอาลูกผู้หญิงไปอยู่ด้วย ถ้ามีแค่เขาและแม่บ้านคงไม่เป็นไร แต่นี่มีผู้หญิงอื่น ผู้ชายอีก ไปแค่1ชม.พี่ก็เครียดแล้ว ตั้งแต่เลิกกันมาเขาไม่เคยมาขอ นี่เป็นครั้งแรก ไม่ทราบเจตนาเขาเลย"

"กานต์ตอบทางจดหมายและโพสต์ไปในเฟช พี่ไม่รู้เขามีฟีคแบคอะไร เพราะไม่ได้ไปยุ่งเลย ถ้าเขาอยากเอาลูกไปเลี้ยงจริงๆ ในความคิดพี่ ข้อตกลงที่ผ่านมา พี่เสกมีสิทธิ์เอาลูกไปเลี้ยงได้เดือนละ8วัน อาทิตย์ละ2ครั้ง แต่บ้านไม่เอื้ออำนวยพี่เลยไม่ยอม ตอนนี้อยากจะฟ้องสิทธิ์ให้พี่มีสิทธิ์ดูแลได้คนเดียว"

"ปัญหาไม่จบ มันเรื้อรัง เป็นที่ตัวเขาที่ไม่เคลียร์ให้จบ รับปากแล้วไม่ทำอะไรเลย แถตลอด อยู่ดีๆ ก็ส่งจดหมายมาจะไปรับน้อง พี่เครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล ปวดหัวมาก หลายวันเลย พี่เป็นหลายอย่าง ปริมาณเลือดในร่างกายความเข้มข้นน้อยมาก เลือดหายไปครึ่งหนึ่งในตัว พรุ่งนี้หมอนัดอีกรอบ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแต่ยังเพลียๆ อยู่ เราไม่รู้ว่าเขารู้ไหม เราตัดขาดไม่เคยยุ่งกับเขาเลย"

"กลัวความปลอดภัย กานต์ไม่รู้อะไรของเขากันเลย การที่ไปเซ็นต์ชื่อบ้านเป็นชื่นลูกเราก็โอเค มีช่วงหนึ่งเขาไปฝรั่งเศสเราก็ให้เขาพาลูกไปด้วย ลูกไม่ได้ไปนานแล้ว อยากให้เขามีเวลากับลูก แต่เขาไม่ให้ไป"

"ถ้าเขาขอคุยพี่ก็อาจจะคุยด้วย แต่พี่ไม่ไว้ใจเขาและคนรอบข้างเขาหมดเลย ถ้าจะมาคุยกันให้รู้เรื่องและทำตามได้ ก็จะยอมคุย เราคุยกับลูกแล้ว เขาไม่ไป เพราะเขาเห็นอยู่แล้วว่ามีใครอยู่บ้านบ้าง ขนาดไปเยี่ยมลูกที่โรงเรียนยังยกกันไปเป็นขโยง ลูกอึดอัดมาก"

"อยากบอกว่าถ้าจะมาเยี่ยมไม่ได้ขัดขวาง มาคุยกับลูกได้ แต่ไม่สามารถรับไปไหนได้ เพราะไม่ได้ไปกับลูกแค่2-3คน แต่พาคนอื่นไปด้วน ลูกเราเราเลี้ยงมาเองคนเดียว เขาคือดวงใจของพี่ บ้านคาวโลกีย์สกปรกพี่ไม่ให้ไป"
อ่านต่อที่ :http://news.sanook.com/1936155/